เกือบตายจริงๆ ยายกระดูกติดคอ ทนเจ็บ 3 วัน สุดท้ายอาการวิกฤต ลูกรีบนำส่ง รพ. ให้หมอช่วยผ่าออก!
ตามรายงานพบว่า ผู้ป่วยหญิงอายุ 73 ปี ถูกส่งตัวมายังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลกลางไท่โจว ประเทศจีน ด้วยสภาพวิกฤต มีอาการเจ็บหน้าอก และตรวจพบหลอดอาหารฉีกขาด
ครอบครัวระบุว่า 3 วันก่อน ผู้ป่วยได้ทานซุปกระดูกเป็ด และเผลอกลืนกระดูกชิ้นหนึ่งลงคอ หลังจากนั้นจึงพยายามดื่มน้ำหลายอึก เพื่อให้กระดูกลงไปในกระเพาะอาหาร แต่ไม่สามารถทำได้ จึงยังคงไอและพยายามอาเจียนออกมา แต่ก็ไม่สำเร็จ บวกกับเมื่อไม่อยากรบกวนคนในครอบครัว จึงพยายามทนกับกระดูกที่ติดอยู่ในคอ
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านมา 3 วัน อาการเจ็บเวลากลืนน้ำลายไม่ได้ดีขึ้น และเริ่มมีไข้ จึงตัดสินใจบอกกับลูกๆ กระทั่งถูกนำตัวมายังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา ซึ่งผลตรวจแสดงให้เห็นว่ากระดูกเป็ดยาวประมาณ 2.5 ซม. ลักษณะเหมือนหนามแหลม แทงทะลุหลอดอาหารและเข้าไปในช่องกลางทรวงอก
แพทย์ประเมินว่า สิ่งแปลกปลอมที่เจาะเข้าไปในช่องกลางทรวงอกทำให้เกิดการติดเชื้อร้ายแรง หากไม่รีบกำจัดออกไปอาจทำให้หลอดเลือดใหญ่ทะลุได้ทุกเมื่อ ซึ่งจะส่งผลให้มีเลือดออกมากและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ป่วย หัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก จึงร่วมมือกับแพทย์ท่านอื่นๆ ของโรงพยาบาล รีบทำการผ่าตัดเพื่อนำกระดูกเป็ดออกจากร่างกายคนไข้ และรักษาการติดเชื้อ
โชคดีที่การผ่าตัดประสบความสำเร็จ จึงสามารถช่วยชีวิตคนไข้จากประตูแห่งความตาย อย่างไรก็ดี แพทย์เตือนด้วยว่า “หลายคนคิดว่ากระดูกติดคอเป็นเรื่องเล็กน้อย แค่ดื่มน้ำส้มสายชูเล็กน้อย กลืนข้าวสารหนึ่งกำมือก็รักษาหายได้ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น”
ผนังหลอดอาหารของมนุษย์ค่อนข้างบาง และตั้งอยู่ใกล้กับหัวใจ หลอดลม หลอดเลือดหลัก เมื่อกระดูกติดคอจะทำให้หลอดอาหารทะลุ แบคทีเรียในช่องปากจะตามรอยเจาะเข้าไปในช่องกลางทรวงอกและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ “ที่ร้ายแรงกว่านั้น กระดูกอาจเจาะทะลุอวัยวะอื่นๆ เช่น หลอดเลือด และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้” คุณหมออธิบายเพิ่มเติม
เมื่อกระดูกติดคอไม่ควรใช้วิธีการรักษาแบบพื้นบ้าน เช่น กลืนข้าวสารหนึ่งกำมือ หรือดื่มน้ำส้มสายชู เพื่อจัดการกับสิ่งแปลกปลอมดังกล่าว วิธีการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่ได้ผล แต่ยังสามารถทำให้กระดูกถูกดันลงไปข้างล่าง ส่งผลให้หลอดอาหารเสียหาย และทำให้สภาพแย่ลงได้
วิธีการจัดการกับกระดูกติดคอที่ถูกต้องคือ ควรหยุดรับประทานอาหารทันที เอียงศีรษะไปข้างหน้า และไอเบาๆ หากทำแล้วรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในลำคอ ลองขอให้คนรอบข้างใช้ไฟฉายส่องตรวจสอบดู หากพบว่ามีอะไรติดอยู่จริงๆ ให้รีบไปที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อให้แพทย์นำสิ่งแปลกปลอมออก
