เกิดประเด็นร้อนวงการมวยบ้านเรา ในวันที่ 7พ.ย.67 รถถัง จิตรเมืองนนท์ ตกตาชั่ง เสียแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) หลังจาก รถถัง ทำค่าน้ำไม่ผ่าน (ต้องผ่านทั้งพิกัดน้ำหนัก และค่าน้ำ) จนทำให้เข็มขัดแชมป์โลกกระเด็น ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมา เคลื่อนไหว โพสต์ระบายว่า 7ปีที่เราอยู่ด้วยกันมา ผมเต็มที่ที่สุดแล้ว จากกันแล้วก็จะไม่จากไกลผมสัญญาว่าจะเอากลับมาให้ได้ ไม่ต้องด่าคนอื่นนะพี่ๆ ด่าผมคนเดียว ผมเต็มที่ที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตามไฟต์ขึ้นชก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในวันที่ 9 พ.ย.67 นั้น ทั้งคู่ รถถัง-จาค็อบ สมิธ จะยังขึ้นชกกันตามเดิม แต่เปลี่ยนพิกัดเป็นรุ่น แคตช์เวต 135.5 ปอนด์ (เกินพิกัดมา 0.5ป.) ซึ่งจะชกแบบ 5 ยก
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ ณ เวลานี้กลายเป็นอดีตไปแล้ว ด้วยเหตุตกตาชั่งในนัดป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกครั้งที่ 6 กับผู้ท้าชิง “จาค็อบ สมิธ” ในศึก ONE 169 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.นี้ ณ สนามมวยเวทีลุมพินี
เมื่อสิ้นสุดเวลาชั่งน้ำหนัก “รถถัง” มีค่าน้ำในร่างกายผ่านตามเกณฑ์ แต่น้ำหนักเกินจากรุ่นฟลายเวตอยู่ 0.5 ปอนด์ มีผลให้ถูกปลดจากตำแหน่งแชมป์โลกทันที ในขณะที่ผู้ท้าชิง “จาค็อบ” ซึ่งผ่านทั้งค่าน้ำและน้ำหนัก มีสิทธิ์ในการชิงแชมป์โลกได้ตามปกติ
นอกจากนี้ “จาค็อบ” ยังได้รับค่าชดเชยน้ำหนักจาก “รถถัง” จากการต้องชกนอกเหนือจากที่ตกลงกันว่าจะชกในรุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.) แต่ต้องชกในพิกัดเฉพาะ 135.5 ป. ตามที่ตกลงกันใหม่
ตามระเบียบปฏิบัติ หากนักกีฬาที่ทำน้ำหนักผ่านไม่ยินยอมชกในพิกัดใหม่ จนเป็นเหตุให้การแข่งขันถูกยกเลิก นักกีฬาที่ทำน้ำหนักผ่านยังมีสิทธิ์ได้รับค่าตัวตามที่ตกลงกันในสัญญา เพราะถือว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองสมบูรณ์แล้ว
ขณะที่ฝ่ายที่ทำน้ำหนักไม่ผ่านจะไม่ได้รับค่าตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะถือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากความบกพร่องในหน้าที่ของนักกีฬาซึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญาเรื่องการทำน้ำหนักให้ได้ตามพิกัดที่ตกลงชก
ผลการชกไฟต์นี้ หาก “รถถัง” สามารถเอาชนะ “จาค็อบ” ได้ ผลคือ “แชมป์ว่าง” หาก “จาค็อบ” ได้รับชัยชนะ จะขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลกคนใหม่ตามสิทธิ์ที่ควรได้รับ
นับเป็นครั้งที่ 2 ของ รถถัง ที่ต้องตกตาชั่ง มวย ONE (ทำน้ำหนักไม่ผ่านพิกัดชก) ก่อนหน้านี้ กำปั้นชาวไทยวัย27ปี เคยทำน้ำหนักไม่ผ่านในไฟต์กับ เดนิส พูริช กติกาคิกบ็อกซิ่ง เมื่อเดือน มิ.ย.2567