จากกรณีเกิดเหตุอุกฉกรรจ์สั่นสะเทือนจิตใจชาวบ้าน เมื่อชายวัย 55 ปี คือ นายเตี้ย วินจักรยานยนต์รับจ้างในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ล่อลวงยายนิล หรือ นางหนูนิลสูงอายุวัย 89 ปี ก่อนลงมือสังหารและนำศพไปยัดใส่กระสอบทิ้งในป่าริมถนนสายเทิดพระเกียรติ หมู่ 5 ตำบลปากนคร อำเภอเมือง
ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 14 พฤษภาคม สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นายเจริญยังถูกคุมตัวอยู่ในห้องควบคุม โดยพนักงานสอบสวนจะต้องนำตัวออกมาสอบปากคำอย่างละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยจะครบกำหนดการควบคุมตัวได้ 48 ชั่วโมงในวันที่ 15 พ.ค.นี้ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะต้องนำตัวไปขออำนาจศาลผลัดฟ้องฝากขังต่อไป
ขณะญาติได้นำหลักฐานผลการชันสูตรศพของนางหนูนิล โดยใบรับรองสาเหตุการตาย ระบุชัดเจนว่า “ไขสันหลังส่วนคอฉีกขาดจากกระดูกสันหลัง บริเวณลำคอหัก” ส่วนรายงานการชันสูตรเชิงลึกฉบับเต็มจะถูกส่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี
ทำให้ญาติไม่เชื่อการรับสารภาพเนื่องจากไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น กระสอบที่ใส่ศพมีสภาพใหม่ เชื่อว่าเป็นการเตรียมการมาก่อน และถูกทำร้ายอย่างทารุณ โดยใบหน้าเละ ปากและจมูกเต็มไปด้วยโคลน
คำให้การของนายเจริญอาจยังไม่สอดคล้องกับพฤติการณ์ของคดีตามความเป็นจริง จากรายงานของผลการชันสูตรศพไม่ตรงกับคำให้การของผู้ต้องหา เป็นไปได้ว่าขณะผู้ตายคว่ำหน้าน่าจะถูกกระทืบต้นคอด้านหลังอย่างรุนแรงทำให้คอหักและไขสันหลังต้นคอฉีกขาด
ซึ่งรอรายงานการชันสูตรฉบับเต็มจะสามารถชี้ชัดได้ และหากเป็นไปตามนี้อาจถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นด้วยการกระทำทารุณโหดร้าย เพื่อการชิงทรัพย์ได้อีก
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมจากการสืบสวนพบว่า สาเหตุที่นายเจริญหนีมุ่งหน้าไปยังเกาะสมุยซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยอาศัยอยู่ ตั้งใจตามหาภรรยาเก่าที่ทิ้งนายเจริญหนีออกจากบ้านไป และทราบว่าภรรยาได้หนีไปอาศัยอยู่ที่เกาะสมุย นายเจริญจึงเดินทางไปเพื่อสะสางแค้นถึงขั้นตั้งใจจะเอาชีวิตภรรยา แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อน
