เรื่องนี้มีที่มาจาก เว็บไซต์ต่างประเทศ phunuphapluat ได้มีการรายงานว่า แม่และลูกสาวคู่หนึ่ง ได้เข้าไปยังร้านอาหารท้องถิ่นในเมืองกว่างหยวน ประเทศจีน และทำการสั่งอาหารมา 3 เมนู แต่หลังจากอาหารถูกเสิร์ฟวางบนโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่กลับไม่แตะต้อง แม้แต่นิดเดียว และเอาแต่ก้มหน้าจ้องโทรศัพท์มือถือโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินไประยะเวลาเกือบชั่วโมง ในที่สุดเจ้าของร้านจึงตัดสินใจว่า ต้องแจ้งตำรวจ
โดย เจ้าของร้าน เล่าว่า เมื่อพนักงานบอกว่า ทั้งสองมีพฤติกรรมผิดสังเกต เขาจึงเข้าไปตรวจสอบด้วยตนเอง และพบว่าทั้งคู่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับข้อมูลที่อ่อนไหว เช่น บัญชีธนาคาร รหัสยืนยัน SMS และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ด้วยความระแวงว่า สองแม่ลูกอาจตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือคดีลักพาตัวเรียกค่าไถ่ เขาจึงพยายามเตือนทั้งสองให้ระมัดระวัง แต่เมื่อความเป็นห่วงไม่เป็นผล เขาจึงรีบแจ้งตำรวจทันที
หลังจากตำรวจเดินทางมาถึง พวกเขาพบว่า ทั้งสองแม่ลูกกำลังใช้ฟีเจอร์แชร์หน้าจอผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยมีบุคคลแปลกหน้าคอยสั่งให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของบัญชีธนาคาร รวมถึงรหัสยืนยันผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อลวงให้โอนเงินภายใต้ข้ออ้างว่า กำลังทำธุรกรรมคืนเงิน ซึ่งแท้จริงแล้ว จากการตรวจสอบ มันไม่มีอยู่จริง เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าแทรกแซง พร้อมกับแนะนำให้ตัดสายและอธิบายถึงเทคนิคของเหล่ามิจฉาชีพอย่างละเอียด
ต่อมา ใช้เวลาไม่นาน แม่ลูกคู่นี้ก็เริ่มเข้าใจและยอมเล่าความจริงว่า เด็กหญิงได้เล่นเกมออนไลน์และถูกแนะนำให้ติดต่อ คนกลาง เพื่อซื้อบัญชีเกม โดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือมิจฉาชีพ แม่ของเด็กหลงเชื่อและได้โอนเงินไปแล้วกว่า 60,000 หยวน หรือประมาณ 216,000 บาท ขณะที่มิจฉาชีพกำลังจะหลอกโอนเงินส่วนที่เหลืออีกกว่า 300,000 หยวน หรือประมาณ 1.08 ล้านบาท แต่โชคดีที่ตำรวจเข้ามาทัน ก่อนเงินจะสูญหายไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม ความสงสัยและการลงมือทำของเจ้าของร้าน ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียทางการเงินครั้งใหญ่ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทางตำรวจจีนออกมาเตือนผู้ปกครองให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลบุตรหลาน โดยเฉพาะในการใช้อินเทอร์เน็ต และเน้นว่าโลกออนไลน์เต็มไปด้วยโอกาสแต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายมากมาย
ข้อมูล phunuphapluat