หมอเตือนเครื่องดื่ม 3 ชนิด “แย่ที่สุด” เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ ไม่ใช่แค่เหล้า-น้ำอัดลม แต่รวมถึงน้ำของผู้ที่ใส่ใจสุขภาพด้วย!
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคสมองเสื่อมที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งเป็นภาวะที่สูญเสียความจำ การสื่อสาร และทักษะการแก้ปัญหาไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการดื่มเครื่องดื่มบางประเภทอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ โดยมี 3 เครื่องดื่มที่อาจส่งผลเสียต่อสมองมากที่สุด ตามที่ ดร. ซารับห์ เซธี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารจากแคลิฟอร์เนีย ได้กล่าวถึง
1. โซดาไดเอท (Diet Soda)
หลายคนที่ใส่ใจสุขภาพอาจคิดว่าโซดาไดเอทเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากไม่มีน้ำตาล แต่จริงๆ แล้วมันไม่ดีต่อสมองเลย เพราะในโซดาไดเอทมีสารให้ความหวานเทียม (เช่น อะสปาร์แตม) ที่สามารถทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้เสียหาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของสมองได้ การวิจัยพบว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานเทียมเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ถึง 2.9 เท่า
2. แอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นที่รู้กันว่าไม่ดีต่อร่างกาย โดยมันสามารถทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้เสียหายและทำลายสุขภาพตับ รวมทั้งมีผลกระทบต่อการนอนหลับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพสมอง การนอนไม่พอ หรือการนอนหลับที่ไม่ลึกจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ โดยคนที่นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อคืนมีความเสี่ยงสูงถึง 2 เท่าของการเกิดโรคสมองเสื่อม
3. เครื่องดื่มเกลือแร่ (Sports Drinks)
เครื่องดื่มกีฬาเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และไม่มีไฟเบอร์ ซึ่งทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและอาจส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงยังเกี่ยวข้องกับการอักเสบเรื้อรังที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้
ตามที่คุณหมอกล่าวเตือนมานั้น ทั้งหมดนี้คือเครื่องดื่มที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้น ควรเลือกดื่มสิ่งที่ดีต่อสุขภาพสมองเพื่อป้องกันการเกิดโรคในอนาคต
