เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ที่บริเวณโรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้มีประชาชนนับพันคนและรถยนต์จำนวนหลายร้อยคันจอดทั่วบริเวณสนาม เพื่อร่วมฟังศพสวดพระอภิธรรมเด็กนักเรียนพร้อมครูเหยื่อรถบัสไฟไหม้ 23 ศพ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลาย สภ.ในจังหวัดอุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ อปพร.ของตำบลลานสักคอยให้ความสะดวกในการจอดรถยนต์ที่มาร่วมงาน
แต่จู่ๆได้มีประชาชนท่านหนึ่งที่เข้ามาจอดรถบริเวณนั้น เห็นรถกระบะติดเครื่องอยู่และมีควันออกอยู่ที่หน้าหน้าฝากระโปรงรถเกรงว่าจะเกิดไฟไหม้รถยนต์ จึงรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่อปพร.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณนั้นให้มาดู หลังจากหลังจากมาดูแล้วก็แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนอยู่บริเวณนั้น
พ.ต.ต.เกษม ตระกูลมีทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองอุทัยธานี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณนั้นได้รีบเข้ามาดู หลังจากนั้นได้วิทยุแจ้งไปยังกองอำนวยการแจ้งเจ้าของรถกระบะ ทะเบียน ผต 8200 นครสวรรค์ ว่ามีควันออกมาจากหน้ารถ ฒญฬโดยกู้ภัยอุทัยธานีให้เจ้าของรถยนต์เปิดประตูรถยนต์ พบว่าภายในรถมีควันเป็นจำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นไหม้ตลบอบอวล หลังจากนั้นเมื่อเปิดฝากระโปรงรถ พบว่ามีควันออกมาจากบริเวณไดสตาร์ต กู้ภัยจึงถอดขั้วแบตเตอร์รถยนต์ออก จนรถยนต์ดับ
สอบถามเจ้าของรถยนต์ บอกว่าขับรถยนต์มาจากในตลาดลานสัก ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อมาร่วมงานฟังพระสวดอภิธรรม ก่อนนำรถมาจอดที่ด้านหน้าลานวัด หลังจากนั้นก็ดับเครื่องยนต์ เข้าไปในงานได้ประมาณ 30 นาที ได้ยินเสียงประกาศว่ามีควันออกมาจากรถยนต์
ด้านกู้ภัยอุทัยธานี ก็งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ารถยนต์สตาร์ตติดเองได้ไง หลังจากนั้นทางกู้ภัยได้นำขั้วไปเสียบแบตเตอรี่ เพื่อให้เจ้าของรถสตาร์ต โดยไฟด้านหน้าปัดขึ้นครบหมดทุกดวง แต่ไม่สามารถสตาร์ตติดได้ จึงสร้างความงุนงงให้กับผู้ที่เห็นเหตุการณ์อีก