วันที่ 18 ตุลาคม 2567 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม (กอปภ.จ.นฐ.) ได้แจ้งเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม และน้ำทะเลหนุน ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ระหว่างวันที่ 18-23 ต.ค. 2567 ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งเตือนในช่วงวันที่ 19- 21 ตุลาคม 2567 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบ่นมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ประกอบช่วงน้ำทะเลหนุน วันที่ 18 – 23 ตุลาคม 2567
ทั้งนี้ นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการจังหวัดนครปฐม ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ กองอำนวยการป้องกันแลงกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ดังนี้
1. ประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ ข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หากมีข้อบ่งชี้ว่าจะเกิดภัยให้รีบแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ในทุกช่องทาง สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย และช่องทางการขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ
2. กรณีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ให้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอันตรายจากฟ้าผ่า โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ไม่ควรสวมใส่โลหะ ซึ่งอาจเกิดอันตรายจากฟ้าผ่าได้ และบริเวณน้ำท่วมขังอาจมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลได้ พร้อมทั้งขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง รวมถึงการเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นผิวจราจรด้วย ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันเฝ้าระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร หาสิ่งปกคลุมผลผลิตทางการเกษตร และอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง
3. ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงพื้นที่ริมสองฝั่งคลอง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ตรวจสอบซ่อมแซม ความมั่นคงแข็งแข็งแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ในช่วงวันและเวลาดังกล่าว
4. จัดเตรียมทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัยและแผนเผชิญเหตุ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง กำลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานบรรเทาภัย อำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสนภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุ ตามชั้นตอนของแผนเผชิญเหตุโดยประสานกำลังจิตอาสาและเครือข่ายอาสาสมัครจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมปฏิบัติงานด้วย เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
5. ขอให้แขวงทางหลวงนครปฐม และเทศบาลนครนครปฐม เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขังถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัสนครปฐม และห้างสรรพสินค้าเซนทรัลนครปฐม แขวงทางหลวงสมุทรสาคร เฝ้าระวังพื้นที่น้ำท่วมขังบริเวณถนนบรมราชชนนี และสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน (แพชวัล)
6. หากพบเห็นหรือได้รับผลกระทบ และต้องการความช่วยเหลือเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พลเรือน ทหาร ตำรวจ เครือข่ายอาสาสมัคร จิตอาอาสา ร่วมปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติติต่อไป สามารถแจ้งเหตุผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1784 แจ้งผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784″โดยการเพิ่มเพื่อน Line1D@1784 DDDPM ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นครปฐม รายงาน