ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น, พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4ฯ , พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.สส.4ฯ พ.ต.ท.ภัทร บุญอารักษ์ สว.กก.สส.4ฯ , ร.ต.อ.ณพวิทย์ ดิษฐ์ป้าน รอง สว.กก.สส.4ฯ ,ร.ต.ต.เด่น ภูมิคอนสาร รอง สว.กก.สส.4ฯจับกุมตัว
นายกสิกร อายุ 19 ปี ภูมิลำเนา ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 423/2567 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมแฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครอง โดยจำหน่าย โดยการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการะแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ”
จับกุมบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ได้รับข้อมูลจากกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ว่าได้มีการจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีการขยายผลการจับกุม นายวัลลภ และ นายเอกชัย จากข้อมูล นายวัลลภ ยอมรับและยืนยันภาพหน้าบ้านภายในซอยลาดพร้าว 87 แยก 10 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ว่า ภาพดังกล่าวคือตึกแถวที่เคยไปรับยาเสพติด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 22.00 น. ตามคำสั่งของผู้สั่งการเรื่องยาเสพติด ก่อนที่นายวัลลภฯ ถูกจับกุมพร้อมยาบ้าจำนวน ประมาณ 3,818,000 เม็ด และ ยาไอซ์ประมาณ 25 กิโลกรัม จากการขยายผลผู้ร่วมขบวนการนี้ มีนายกสิกร ผู้ถูกจับนี้ เป็นผู้มาส่งยาเสพติด พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าตนและกลุ่มเพื่อนได้รับการว่าจ้างให้ไปรับ-ส่งยาเสพติดหน้าบ้านภายในซอยลาดพร้าว 87 แยก 10 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ไปส่งในสถานที่ต่างๆตามที่เจ้าของยาเสพติดเป็นคนสั่งการให้ไปส่ง โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 5,000 บาท หลังจากนั้นทราบว่าตนเองได้ถูกออกหมายจับจึงได้หลบหนีข้ามไปยังประเทศ กัมพูชา ไปทำงานเป็น แก็งค์คอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกคนไทย แต่เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในด้านดังกล่าว จึชงไม่สามารถที่จะทำยอดให้กับนายชทุนคอลเซ็นเตอร์ได้ จึงถูกทำร้ายร่างกาย จึงหลบหนีกลับเข้ามาในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ชุดชจับกุมได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหามาโดยตลอด เมื่อทราบข้อมูลจากสายลับซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้ต้องหา จึงนำชกำลังเข้าไปติดตามจับกุม จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.โชคชัย ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า “ปัญหายาเสพติด” กำลังเป็นปัญหาที่คุกคามสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นภัยต่อสุขภาพกายและจิตต่อกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ขออย่าให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน และฝากเตือนไปถึงคนค้ายาเสพติดรายเล็กรายใหญ่ ขอให้กลับตัวกลับใจ รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการปราบปรามอย่างจริงจัง และเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน